ชีวิตมนุษย์ไม่อาจดำรงอยู่ได้ หากปราศจาก “คุณค่า” ของสิ่งแวดล้อมรอบกาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ใหญ่ยืนต้น จนถึง “แม่” ผู้ให้กำเนิดและเป็นผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างแต่เพียงว่า “คนรุ่นหลัง” จะทดแทนด้วยการมอบความรัก หรือหวนกลับมาทำลายอย่างไม่รู้จักบุญคุณ
รวมเรื่องสั้น “คืนที่ทนทุกข์กับเช้าที่มาถึง” จากฝีมือการประพันธ์ของ “ปานศักดิ์ นาแสวง” จึงรวบรวมขึ้นเพื่อตั้งคำถามต่อปรากฏการณ์ที่ “มนุษย์” ได้จ้องทำลายสิ่งล้ำค่าบนผืนโลก ไม่ว่าจะรู้ตัว หรือหลงลืมว่าสิ่งเหล่านั้นมอบชีวิตให้
กว่าจะทบทวนได้ว่าสิ่งที่ควรค่าแก่การหวงแหนได้ถูกทำลาย...ทุกอย่างก็สายเกินไป...
“คืนที่ทนทุกข์กับเช้าที่มาถึง” จึงได้กล่าวถึงสิ่งที่ควรหวนแหนและควรค่าแก่การอนุรักษ์ นับแต่ไม้ต้นใหญ่ในสวนข้างบ้าน เรือกไร่สวนผสม หากแต่ลูกหลานและผู้ไม่รู้คุณค่าของผืนแผ่นดินกลับจ้องทำลายเพื่อนำสิ่งเหล่านั้นมาแลกกับ “ความอยู่รอด” แม้กระนั้นลมหายใจแห่งความสุขของพวกเขาก็ดำรงอยู่ได้เพียงประเดี๋ยวประด๋าว แต่การทำลายสิ่งมีคุณค่าเหล่านั้นอาจส่งผลไปชั่วกับกัลป์
ส่วนกลางของเล่ม กล่าวถึงวัฒนธรรมประเพณีของชุมชนไทเบิ้งของที่ราบภาคกลางเพื่อต่อกรกับความเลวร้ายของดินฟ้าอากาศ ทว่าความพยายามของพวกเขากลับไม่เป็นผล เนื่องจากคนรุ่นหลังกระทำย่ำยีสิ่งแวดล้อมจนยากจะกลับเป็นเหมือนเดิม
ส่วนสุดท้ายเล่าถึงส่วนลึกของมนุษย์ว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น “ใจคน” ซึ่งถือเป็น “ต้นเหตุ” ของทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป
และนี่คือรวมเรื่องสั้นอีกเล่มของ “ปานศักดิ์ นาแสวง” ที่สำนักพิมพ์มติชนภูมิใจนำเสนอแก่สายตาผู้อ่านในวาระนี้