เสาปัก เป็นนิยายพงศาวดารจีน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวไว้ใน ตำนานหนังสือสามก๊ก ว่า สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้อำนวยการแปลเรื่อง เสาปัก เมื่อ จ.ศ. ๑๒๓๒ (พ.ศ. ๒๔๑๓) ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นหนังสือ ๑๘ เล่มสมุดไทย
เสาปัก แปลจากต้นฉบับภาษาจีนเรื่อง หลัวทงเสาเปีย (罗通扫北,"หลัวทงผู้พิชิตดินแดนภาคเหนือ") นิยายอิงพงศาวดารสมัยราชวงศ์ชิง ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการยกทัพปราบปรามแว่นแคว้นทางภาคเหนือของหลัวทงแม่ทัพคนสำคัญใน รัชสมัยพระเจ้าถังไท่จง (唐太宗: ครองราชย์พ.ศ. ๑๑๖๙-๑๑๙๒) กษัตริย์รัชกาลที่ ๒ แห่งราชวงศ์ถัง
กนกพร นุ่มทอง กล่าวว่า หลัวทงเสาเป่ย เป็นอีกชื่อหนึ่งของ ซัวถังเสี่ยวอิงสยงจ้วน (说唐小英雄传:"ตำนานวีรชนน้อยส้วยถัง")ซึ่งเป็นเนื้อหาครึ่งแรกของนิยายอิงพงศาวดารเรื่อง ซัวถังโฮ่วจ้วน(说唐后传;"ตำนานานล้วยถังภาคหลัง") เรื่อง ซัวถังโฮวจ้วน นี้แต่งขึ้นเป็นภาคต่อของเรื่อง ซัวถังเหยี่ยนอี้ฉวนจ้วน(说唐演义全传:"นิยายพงศาวดารราชวงศ์ถังฉบับสมบูรณ์") (ฉบับภาษาไทยเรียก ส้วยถัง) และได้พิมพ์ครั้งแรกเมื่อพ.ศ. ๒๒๘๑ (ปีที่ ๒ ในรัชศกเฉียนหลง) โดยมีเยวียนหูอิ๋วโส่ว(鸳湖渔叟) เป็นผู้ตรวจชำระ เนื้อหาของ ซัวถังโฮ่วจ้วน แบ่งเป็น ๒ ส่วน ทำให้ต่อมามีผู้พิมพ์แยกกันเป็น ๒ เรื่อง เรื่องแรกชื่อ ซัวถังเสี่ยวอิงสยงจ้วน(เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หลัวทงเสาเปย ตรงกับเรื่อง เสาปักในฉบับภาษาไทย) กล่าวถึงเรื่องราวของแม่ทัพหลัวทง (ฉบับภาษาไทยใช้ "ฬ่อทง") ที่ไปปราบดินแดนทางเหนือ และเรื่องหลังชื่อ เซวียเหรินกุ้ยเจิงตง (ตรงกับเรื่อง ซิยินกุ้ย ในฉบับภาษาไทย) เป็นเรื่องราวของแม่ทัพเซวียเหรินกุ้ย (ฉบับภาษาไทยใช้ "ซิยินกุ้ย") ที่ไปปราบดินแดนทางตะวันออก
โรงพิมพ์หมอบรัดเลพิมพ์เรื่อง เสาปัก ฉบับภาษาไทยครั้งแรกเป็นหนังสือเล่มเดียวจบ เมื่อ จ.ศ. ๑๒๔๓ (พ.ศ. ๒๔๒๔) ในรัชกาลที่ ๕ ต่อมาองค์การค้าของคุรุสภาพิมพ์เรื่อง เสาปัก เป็นหนังสือ ๑ เล่มไว้ในหนังสือชุดพงศาวดารจีนเมื่อพ.ศ. ๒๕๑๐ โดยมิได้ระบุว่าพิมพ์จากคันมบับใด เรื่องเริ่มด้วยข้อความระบุวัน เดือน ปีที่สมเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) สั่งให้แปลเรื่อง เสาปักว่า "ณ วันจันทร์แรมแปดค่ำเดือนหกปีมะเส็งโทศกศักราช ๑๒๓๒ ฯพณฯ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินมีพระประสาทสั่งให้แปลราชพงศาวดารจีน เมื่อครั้งหลีสิขึ้นได้เป็นพระเจ้าไทจงฮ่องเต้ ครองราชสมบัติในแผ่นดินถัง ยกกองทัพไปตีเขตแดนฮวนข้างทิศเหนือเรียกว่าเสาปัก [...]"
จากนั้นกล่าวถึงเนื้อเรื่องว่า "พระเจ้าซุยเอียงเต้ ครองราชสมในแก่นกันซุย ขุนนางผู้ใหญ่ชื่อโอบุนฮวยกิบเป็นกบฏ กำจัดพระเจ้าซุยเอียงเต้เสียแล้วตั้งตัวขึ้นเป็นฮ่องเต้ เปลี่ยนนามแผ่นดินซุย เรียกว่าแผ่นดินเค้า หัวเมืองทั้งปวงก็กระด้างกระเดื่องแตกออกเป็นหลายก๊ก [...]" และจบด้วยข้อความว่า "หลีตี้ไทจือกับขุนนางทั้งปวงแจ้งข่าว ก็พากันออกไปรับเสด็จเชิญพระเจ้าไทจงฮ่องเต้เข้าในพระราชวัง [...] ตั้งแต่นั้นมาเมืองเซียงอานก็สิ้นเสี้ยนหนามมีความสุขสืบไป" ท้ายเรื่องมีข้อความระบุว่า "จบบริบูรณ์"
เนื้อเรื่อง เสาปัก เล่าเหตุการณ์ความไม่สงบภายหลังการล่มสลายของราชวงศ์สุยต่อเนื่องมาถึงต้นราชวงศ์ถัง บ้านเมืองขาดเสถียรภาพ แว่นแคว้นต่างๆ ในดินแดนภาคเหนือช่วงชิงอำนาจกัน ต่อมาพระเจ้าไทจงฮ่องเต้ (หลีสิปี๋น) ยกทัพไปปราบเหล่ากบฏที่เมืองปักฮวนซึ่งเป็นดินแดนภาคเหนือ สามารถหักด่านรายทางได้จำนวนมาก แต่ฝ่ายศัตรูทำอุบายลวงทัพของพระเจ้าไทจงฮ่องเต้เข้าไปอยู่ในเมืองมกเอียงเสียแล้วล้อมไว้ ฬ่อทงผู้ชำนาญเพลงอาวุธได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพจากเมืองเซียงอานไปช่วยปราบเหล่ากบฎได้สำเร็จ บ้านเมืองจึงเป็นสุขสืบมา
นิยายพงศาวดารจีนเรื่อง เสาปัก นอกจากนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์การสงครามและกลศึกของจีนสมัยโบราณแล้ว ยังมุ่งแสดงให้เห็นความสำคัญของการรักษาคำสัตย์บุญคุณ ความแค้น พระราชอำนาจและธรรมะของกษัตริย์ผู้ปกครองบ้านเมือง ตลอดจนหน้าที่ของขุนนางผู้เป็นข้าแผ่นดินด้วย