ตะกร้าสินค้า

คุณสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนสินค้าจากรายการด้านล่างได้

สินค้า ราคา จำนวน ราคารวม
ไม่มีรายการสินค้าที่เลือกไว้

ISBN978-974-02-1396-3
ปกหนังสืออ่อน
กระดาษกระดาษจริงใจ 65 แกรม
จำนวนหน้า416 หน้า
น้ำหนัก520.00 กรัม
กว้าง14.30 ซม.
สูง21.40 ซม.
หนา2.40 ซม.
พิมพ์ครั้งที่พิมพ์ครั้งแรก : สำนักพิมพ์มติชน, มีนาคม 2558
สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์มติชน

บันทึกทูตเมียนมาร์ จากลุ่มอิรวดีสู่เจ้าพระยา

ผู้เขียน : Maung Swe Thet

แปลโดย : ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์


ต้องยอมรับว่าขณะนี้เมียนมาร์เป็นประเทศเปิดใหม่ที่กำลังเนื้อหอม แต่จะมีหนังสือสักกี่เล่มที่รวบรวมข้อมูลจากเหตุการณ์จริงและบุคคลจริงที่เคยมีบทบาทร่วมกันในประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและเมียนมาร์ มาถ่ายทอดให้ได้รู้จักและเข้าใจอย่างแจ่มชัด ผ่านข้อเขียนเชิงบันทึก ที่ครบถ้วนทั้งข้อมูลและอรรถรสสำหรับผู้อ่านไปพร้อมกัน

ต้องยอมรับว่าขณะนี้เมียนมาร์เป็นประเทศเปิดใหม่ที่กำลังเนื้อหอม แต่จะมีหนังสือสักกี่เล่มที่รวบรวมข้อมูลจากเหตุการณ์จริงและบุคคลจริงที่เคยมีบทบาทร่วมกันในประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและเมียนมาร์ มาถ่ายทอดให้ได้รู้จักและเข้าใจอย่างแจ่มชัด ผ่านข้อเขียนเชิงบันทึก ที่ครบถ้วนทั้งข้อมูลและอรรถรสสำหรับผู้อ่านไปพร้อมกัน

บันทึกทูตเมียนมาร์ จากลุ่มอิรวดีสู่เจ้าพระยา เล่มนี้ เป็นบันทึกจากปลายปากกาของ ฯพณฯ อู นยุ่น ส่วย อดีตเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำประเทศไทยช่วงปี 2529-2535 (โดยใช้นามปากกา หม่อง ส่วย แต๊ด) อาจเรียกได้ว่านี่คือ “ไดอารี่” ส่วนตัวของท่าน ที่อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดจากความทรงจำระหว่างดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับไทย การออกงานและการสมาคมแบบนักการทูต หรือแม้กระทั่งภาระหน้าที่ในการประสานรอยร้าว และแก้ไขความเข้าใจที่ผิดๆ ระหว่างกัน ซึ่งทำให้หนังสือเล่มนี้มีความสำคัญเสมือนเป็น “บันทึกสายสัมพันธ์ไทย-เมียนมาร์”

คอหนังสือชีวประวัติและผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ร่วมสมัย หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะได้ทราบถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของเหตุการณ์เด่นๆ เช่นวิกฤตการณ์ 8888 ในเมียนมาร์ หรือเหตุจี้เครื่องบินเมียนมาร์แล้ว บันทึกที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเล่มนี้ ยังเล่าผ่านมุมมองของเอกอัครราชทูตหน้าใหม่ ที่เพิ่งพลิกบทบาทจากการเป็นนายทหารอาชีพมากว่าครึ่งชีวิต หากแต่ยังฝากฝีไม้ลายมือด้านการทูตไว้อย่างน่าประทับใจ

รับรองว่าเข้มข้นทั้งสาระและลีลาการเขียนที่ชวนติดตาม ยิ่งอ่านยิ่งรู้จักเมียนมาร์ในมุมที่ไม่ยังเคยรู้ และยิ่งรู้ก็ยิ่งเข้าใจไทยเราในมุมมองของเมียนมาร์