
คุณสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนสินค้าจากรายการด้านล่างได้
สินค้า | ราคา | จำนวน | ราคารวม | |
---|---|---|---|---|
ไม่มีรายการสินค้าที่เลือกไว้ |
ISBN | 9789740217046 |
---|---|
กระดาษ | EOP |
จำนวนหน้า | 168 หน้า |
น้ำหนัก | 255.00 กรัม |
กว้าง | 14.50 ซม. |
สูง | 20.50 ซม. |
หนา | 1.00 ซม. |
พิมพ์ครั้งที่ | 1 |
สำนักพิมพ์ | สำนักพิมพ์มติชน |
กล่าวถึงสาธารณรัฐไวมาร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ หากต่อมาเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งหนึ่ง 1 ระบอบกษัตริย์หรือจักรวรรดิอ่อนแอลง ผู้ขึ้นครองอำนาจต่อมาจึงเป็นชนชั้นนำจากกองทัพบกและพรรคการเมืองต่างๆ ในช่วงเวลาดังกล่าวสาธารณรัฐไวมาร์ยังมีสิทธิเสรีภาพตามสมควร สามารถแสดงออกอย่างเปิดเผย มีการเลือกตั้ง โดยกลุ่มชนชั้นในสาธารณรัฐมีทั้งทหารบกฝ่ายขวา สังคมนิยมฝ่ายซ้าย และเกษตรกร พวกเขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่ปรับตัวกับสังคมใหม่
ในช่วงระยะเวลานั้น พรรคนาซีเพิ่งถือกำเนิดขึ้นเป็นพรรคเล็กๆ ในต่างจังหวัด
กองทัพบทและชนชั้นสูงของไวร์มาปกครองประเทศด้วยความเป็นอนุรักษ์นิยม ขณะที่พรรคนาซีพยายามเข้าถึงมวลชนฝ่ายซ้ายทั้งๆ ที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ของตัวเองเพียงเพื่อหาสมาชิกเพิ่ม ครั้งหนึ่งพรรคนาซีเคยทำผิดถึงกับถูกระงับบทบาททางการเมืองและถูกจำคุก แต่ด้วยแก่นแกนของสาธารณรัฐแห่งนี้ค่อนข้างออกไปในทางอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นแก่นแท้ของฝ่ายขวาและอุดมการณ์ชาตินิยมอยู่แล้ว พรรคนาซีจึงหวนกลับมาโลดแล่นอยู่ในเวทีการเมืองได้อีกครั้ง
จุดหักเหหลักหลังพรรคนาซีรื้อฟื้นคืนกลับมาก็คือเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารรัฐสภา หลายฝ่ายโยนความผิดให้พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายหรือสังคมนิยมจนแทบไม่มีที่ยืนทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง อีกทั้งศาลและชนชั้นสูงต่างก็ไว้วางใจในบทบาทของพรรคนาซี พรรครัฐบาลแห่งสาธารณรัฐจึงมอบอำนาจให้พรรคนาซีดูแลบ้านเมืองด้วยหวังว่าจะให้ปกครองเพียงชั่วขณะ แต่สุดท้ายพรรคนาซีก็ฉวยโอกาสรวบอำนาจก่อนจะกำจัดคู่แข่งทางการเมืองของตนจนหมดสิ้น
เป็นการปิดฉากสาธารณรัฐไวมาร์อย่างสิ้นเชิง เป็นด่านแรกของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว และเป็นด่านแรกของการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2