ตะกร้าสินค้า

คุณสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนสินค้าจากรายการด้านล่างได้

สินค้า ราคา จำนวน ราคารวม
ไม่มีรายการสินค้าที่เลือกไว้

ISBN978-974-02-1374-1
ปกหนังสืออ่อน
กระดาษกระดาษจริงใจ 65 แกรม
จำนวนหน้า400 หน้า
น้ำหนัก450.00 กรัม
กว้าง14.20 ซม.
สูง21.30 ซม.
หนา2.00 ซม.
พิมพ์ครั้งที่พิมพ์ครั้งแรก : สำนักพิมพ์มติชน, มกราคม 2558
สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์มติชน

ไฟรัก ไฟสงคราม

ผู้เขียน : บัญชร ชวาลศิลป์

ใหม่

เพราะหน้าที่อันซื่อสัตย์ หยัดยืนเพื่อชาติบ้านเมือง ทำให้นายทหารทุกยุคสมัยมีหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินอันเป็นที่รัก ท่ามกลางความเชื่อและอุดมการณ์ของผู้คนที่แตกต่าง

แต่สิ่งที่เหมือนกันในนามของ “มนุษย์” ก็คือความรู้สึกจากสายใยแห่งความรัก นับแต่ได้ติดต่อ พบเจอ กระทั่งอบอุ่นทุกครั้งเมื่อได้ชิดใกล้ ถึงแม้อุปสรรคขวากขวางจะเป็นเงื่อนไขของเวลา ฐานะทางชนชั้น จนถึงอุดมการณ์ทางการเมืองก็ตาม

เพราะหน้าที่อันซื่อสัตย์ หยัดยืนเพื่อชาติบ้านเมือง ทำให้นายทหารทุกยุคสมัยมีหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินอันเป็นที่รัก ท่ามกลางความเชื่อและอุดมการณ์ของผู้คนที่แตกต่าง

แต่สิ่งที่เหมือนกันในนามของ “มนุษย์” ก็คือความรู้สึกจากสายใยแห่งความรัก นับแต่ได้ติดต่อ พบเจอ กระทั่งอบอุ่นทุกครั้งเมื่อได้ชิดใกล้ ถึงแม้อุปสรรคขวากขวางจะเป็นเงื่อนไขของเวลา ฐานะทางชนชั้น จนถึงอุดมการณ์ทางการเมืองก็ตาม

“บัญชร ชวาลศิลป์” นักเขียนนายทหารซึ่งมีอยู่น้อยนักในสังคมไทย จึงขีดเขียนนวนิยายกึ่งแฟนตาซีที่กล่าวถึงสงครามระหว่างอุดมการณ์ทางการเมือง ผสานกับเรื่องราวของความรักในสองยุคสองสมัยโดยเชื่อมร้อยกันด้วยจดหมายปริศนาที่เดินทางจากอดีต ทั้งไม่ลืมที่จะเล่าถึงห้วงวิกฤตบ้านเมืองครั้งสำคัญในแต่ละยุคสมัย ภายใต้ชื่อ “ไฟรัก ไฟสงคราม”

เนื้อหาของเรื่อง เริ่มจากชายหนุ่มนายทหารที่สามารถติดต่อกับหญิงสาวในอดีตได้อย่างบัญเอิญ กระทั่งเขาคนนั้นได้รู้จักหญิงสาวอีกคนหนึ่งในปัจจุบันที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับสตรีในอดีต

ไม่ว่าเธอในอดีตคนนั้น จะเป็นชาติที่แล้วของหญิงสาวในปัจจุบันหรือไม่
ไม่ว่าเธอจะมีอุดมการณ์และความคิดที่แตกต่างจากเขาเช่นใด

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เธอทำให้นายทหารที่มีจิตใจแกร่งกร้าว กลับอ่อนโยนและหลงรักหญิงสาวคนนี้อย่างยากที่ทอดถอนได้ หากแต่สุดท้ายด้วยความห่างไกล หรือด้วยความโชคร้ายที่ทำให้คนทั้งคู่ต้องอยู่ในสถานะที่แตกต่าง จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำให้เขาและเธอสมหวังในความรัก

หนังสือเล่มนี้ จึงนับเป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องแรกที่ผู้เขียนศึกษาหาข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ เจาะลึกทุกรายละเอียดที่ผูกสัมพันธ์กันมาทุกสมัย เพื่อให้เข้ากันได้กับสถานการณ์ทางการเมืองที่มักจะเกิดวิกฤตระลอกแล้วระลอกเล่าจนถึงทุกวันนี้

อย่างน้อยก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า ความรักนั้นอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง